โรงแรมแห่งที่สองในเชียงใหม่ที่พิมไปพัก ช่วงระหว่างวันที่ 21 - 30 พฤศจิกายน 2554 ค่ะ
โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมแห่งที่สองที่พิมไปพัก ช่วงระหว่างเดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่ ..... โรงแรมนี้นะคะ ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน หรือหากจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือตั้งอยู่ตรงประตูท่าแพเลยค่ะ หรือหากยังงงอีก ดูได้จากแผนที่ในรูปข้างล่างเลยนะคะ ^__^
สำหรับโรงแรมนี้บอกตามตรงแต่แรกเลยค่ะว่าจองผิด >_<" คือพิมตั้งใจจะไปเดินถนนคนเดินค่ะ แต่นึกว่าถนนคนเดินตรงท่าแพมีทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ก็เลยจองโรงแรมนี้ซะ เพราะเห็นว่ามันสะดวกดี กะว่าเดินคืนวันเสาร์เสร็จ เช้าแพคของฝาก กลางวันก็เช็คเอ้าท์กลับกรุงเทพฯ เลย ไรงี้อ่ะค่ะ แต่ปรากฎว่าจองผิด หุหุ แต่ก็ไม่เป็นไรค่า ได้เปลี่ยนบรรยากาศก็ดีไปอีกอย่าง ^^
สำหรับโรงแรมนี้ อย่างที่บอกตอนแรกว่าตั้งอยู่ตรงประตูท่าแพเลยนะคะ เพราะงั้นหากเราเดินลอดผ่านประตูท่าแพเข้ามาที่ตรงถนนราชดำเนิน เมื่อเราหันขวาปุ๊บ เราก็จะเจอโรงแรม Hotel M ตั้งตระหง่านอยู่ตามในภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าที่ รร. นี้ มีที่จอดรถนะคะ แต่.....มีไม่มาก มีแค่ที่ด้านหน้าโรงแรมเท่านั้น ก็พอจอดได้สัก 7-8 คัน (พิมก็กะๆ เอา) ดังนั้นใครที่จะเอารถมาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลอย่างยี่เป็ง ปีใหม่ อะไรประมาณนี้ แล้วจะมาพักที่โรงแรมนี้ อาจจะต้องคิดเยอะนิดนึงว่าจะมีที่จอดรถไหมน่ะค่ะ
ถัดจากที่จอดรถไปทางด้านซ้ายมือ ก็จะเป็นร้านอาหาร กลางคืนจะเห็นคนต่างชาติมานั่งทานนั่งดื่มพอสมควร แต่เช้ากลางวันไม่ค่อยมีค่ะ
และนี่คือประตูทางเข้าโรงแรมนะคะ
เดินเข้าประตูไปปุ๊บ ก็จะเจอเคาเตอร์สำหรับเช็คอินอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ ซึ่งถ้ามองจากในภาพก็คือจุดที่มีพนักงานผู้ชายยืนอยู่อ่ะนะคะ (พิมไม่กล้าไปถ่ายตรง ๆ เกรงใจเค้าค่ะ)
ระหว่างรอเช็คอิน ถ้ามีเพื่อนหรือครอบครัวไปด้วย ก็สามารถมานั่งพักได้ที่เก้าอี้ตัวนี้นะคะ ^^
หรือจะไปนั่งเล่นคอมส์ เล่นเนตที่คอมส์ 3 เครื่องนี้ก็ได้ค่ะ (แต่เห็นเปิด stand by ไว้เครื่องเดียว)
หลังจากเช็คอินเสร็จ พนักงานเค้าก็จะพาเราไปที่ห้องพักค่ะ สำหรับห้องพักของพิมในวันนี้อยู่ชั้น 4 นะคะ ห้อง 403 อยู่เกือบท้ายสุดเลยค่ะ
เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็จะเจอกับห้องในลักษณะแบบนี้นะคะ ออกจะมึด ๆ หน่อย เพราะเปิดม่านน้อย และไม่ได้เปิดไฟดวงกลางในห้องน่ะค่ะ
แล้วพอเปิดหน้าต่างห้องออกไป ก็จะเจอวิวแบบนี้ ซึ่งก็คือบริเวณประตูท่าแพนั่นเองค่ะ
สำหรับห้องพักของ รร. นี้ในประเภทห้อง Superior พิมถามคุณพนักงานแล้วเค้าบอกว่าการจัดวางเฟอร์ก็จะเหมือน ๆ กัน ซึ่งก็คือ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ทางด้านขวามือคือห้องน้ำ ซ้ายมือคือที่วางรองเท้า ตู้เย็น และตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านในคือเตียงนอน และก็โต๊ะเขียนหนังสือค่ะ
ในส่วนของเตียงของที่นี่ ... ตัวเตียงโอเคไม่มีปัญหาอะไร แต่ฟูกยุบมากเลยค่ะ ยุบจนแบบว่าพอพิมนอนลงไป มันก็เหมือนแอ่งกระทะตรงกลางเตียงเลย ทำให้นอนไม่ได้ค่ะ แจ้งพนักงานแล้วเค้าก็บอกว่าห้องเต็มไม่สามารถเปลี่ยนได้ ก็เลยต้องทนนอนไป ทำให้เวลานอนตอนกลางคืนไม่สามารถนอนตรงกลางเตียงได้เพราะจะปวดหลังมาก ตัวก็จะคอ ๆ งอ ๆ เพราะยืดขาไม่ได้เต็มที่เนื่องจากที่นอนเป็นแอ่ง เลยทำได้แค่นอนตรงขอบๆ เตียงอย่างเดียวเลยอ่ะค่ะ แถมพอนอนหลับไปเผลอพลิกมาทางด้านกลางเตียง ก็จะเหมือนยุบลงไปเลย ทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ..... เป็นการนอนที่ทรมานจริง ๆ จนอยากจะลากผ้าห่มลงไปปูนอนที่พื้นห้องข้างเตียงเลยค่ะ
และในส่วนของตู้เย็น ทางโรงแรมก็จะจัดทั้งน้ำดื่มและของกินเล่นจำพวกถั่วทอด มันฝรั่งทอดไว้ให้เราเต็มตู้เย็นเลยค่ะ แต่ส่วนที่ฟรีก็คือน้ำเปล่าในขวดแก้ว 2 ขวดด้านข้างฝาตู้เท่านั้น ส่วนขวดและกระป๋องอื่นๆ ในตู้ กินได้ แต่คิดเงินตอนเช็คเอาท์ค่ะ แต่จะว่าไปราคาก็แพงกว่าปกติประมาณ 5 บาท 10 บาท ไม่แพงเว่อร์เหมือนบางโรงแรมอ่ะค่ะ เพราะงั้นกินได้อย่างไม่ลำบากใจ
ส่วนตู้เสื้อผ้าของโรงแรมนี้ก็จะมาแบบเป็นตู้ให้นะคะ แต่ว่าตู้เค้าค่อนข้างแคบค่ะ จะแขวนจะทำอะไรก็อาจจะลำบากนิด พิมก็เลยไม่ได้ใช้บริการในส่วนนี้ และในตู้เสื้อผ้าก็จะมีถุงไดร์เป่าผมด้วยนะคะ หากจะใช้ก็สามารถไปหยิบออกมาได้ค่ะ แต่ตอนเอาออกจากถุง ระวังนิดนะคะ ต้องอ้าปากถุงให้กว้าง ๆ หน่อย เพราะบางทีสายมันขด ๆ พัน ๆ อยู่ข้างใน ดึงแรงๆ อาจจะมีปัญหาได้อ่ะค่ะ ^^
สำหรับคนที่อยากจะได้ข้าวของในห้องพักที่เป็นของทางโรงแรมเช่น ถุงใส่ไดร์เป่าผม แก้วน้ำ ที่รองแก้ว ผ้าขนหนู ปลอกหมอน หรืออื่น ๆ ไปเป็นที่ระลึก ทางโรงแรมเค้าก็มีเขียนบอกไว้เลยนะคะว่า แต่ละอย่างเนี่ยถ้าแขกที่มาพักหยิบไป จะต้องเสียค่าที่ระลึกเท่าไหร่อ่ะค่ะ บางอย่างก็หลักร้อย แต่บางอย่างก็หลักหลายพันเลยจ้า ^^
อ้อ ๆ สำหรับโทรทัศน์ของที่นี่ จอใหญ่พอควรค่ะ และหากใครชอบทำอาหารชอบกินอาหาร มันจะมีทีวีช่องนึงเป็นช่อง Asian Food Chanel ค่ะ มีแต่รายการทำอาหารทั้งวันเลย น่าสนใจมาก ตอนพิมอยู่ห้องพิมนอนดูตลอดเลยค่ะ ยังไงใครที่ชอบเหมือนพิมก็ลอง ๆ ดูนะคะ
ในส่วนของห้องน้ำ ... ห้องน้ำที่นี่จะค่อนข้างกว้างกว่าเมื่อเทียบกับห้องน้ำของ All Seasons Chiangmai ค่ะ แถมมีสายชำระด้วย ดังนั้นใครที่เวลาเข้าห้องน้ำแล้วติดต้องใช้สายชำระ รับรองมาที่นี่แล้วจะสบายใจค่ะ ..... แต่ในส่วนของห้องอาบน้ำ แม้จะกว้างกว่าของ All Season Chiangmai แต่ว่าบานกระจกเลื่อนที่เป็นตัวกั้นระหว่างพื้นที่เปียกกับแห้ง ค่อนข้างฝืดและเลื่อนยากมากเลยค่ะ ทำให้เวลาปิดเปิดแต่ละที กลัวจะมันหลุดออกมาแล้วแตกพังเสียหายน่ะค่ะ >_<" ตรงนี้ถ้าทางโรงแรมปรับปรุงได้ ก็คงจะดี
รีวิวในส่วนของห้องพักไปแล้ว ก่อนจะจบรีวิวก็ขอพามาดุในส่วนของอาหารเช้ากันบ้างค่ะ สำหรับอาหารเช้าของที่นี่หากแขกที่มาพักไม่ถึง 70 คน (ส่วนใหญ่คือวันธรรมดา) จะเป็นอาหารเช้าแบบสั่งเอาค่ะ แต่ถ้าแขกมาพักเกิน 70 คน (มักจะเป็นเสาร์ อาทิตย์ และช่วงเทศกาล หรือในหน้าหนาว) จะเป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟท์ ซึ่งรูปแบบของอาหารเช้าก็จะเป็นแบบเดียวกับที่ All Seasons Chiangmai และในอีกหลาย ๆ โรงแรมเลยค่ะ แต่รวมๆ ดูเหมือนจะมีน้อยกว่า คือ จะมีข้าวผัดเป็นหลัก 1 อย่าง อาหารเส้น 1 อย่าง กับข้าว 1 อย่าง (แต่วันที่พิมไปพัก ไม่มีกับข้าว) ข้าวต้ม ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว เบคอนทอดกรอบ สลัด ผลไม้สด น้ำส้ม (มีน้ำผลไม้แค่ 1 อย่าง) น้ำเปล่า ชา กาแฟ ขนมปัง (มีเตาปิ้งให้) แยมสตรอเบอรี่ แยมผิวส้ม เนยสด ..... ประมาณนี้ล่ะค่ะ
ป.ล. หากต้องการถามอะไรพนักงานในส่วนของห้องอาหาร แนะนำว่าอย่างน้อยควรฟังภาษาอังกฤษได้นะคะ เพราะว่าพนักงานในส่วนนี้จะสื่อสารกับแขกผู้มาพักไม่ว่าจะคนไทยหรือคนต่างประเทศด้วยภาษาอังกฤษอย่างเดียวอ่ะค่ะ
ซึ่งในวันที่พิมไปพักและลงไปทานอาหารเช้า ข้าวผัดเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่แทบไม่ตักกันเลยค่ะ หรือตักไปก็มักจะไม่ทานกัน เพราะว่าตัวข้าวแข็งมาก (แข็งในลักษณะเหมือนตากลมมา) แถมบางเม็ดก็เหมือนหุงไม่สุกอีกด้วยค่ะ / เบคอน ก็ไม่ทราบว่าเค้าทอดมาในลักษณะไหน แต่เหมือนทอดในน้ำมันที่ใช้มาหลายครั้งแล้ว เพราะมีเศษดำๆ เหมือนตะกอนในน้ำมันค้างอยู่บนชิ้นเบคอนพอควรค่ะ / ผัดหมี่ฮกเกี๊ยนกับถั่วงอก อันนี้รสชาติกลางๆ ค่ะ พิมกินได้ แต่คุณสามีว่ากลิ่นถั่วงอกแรงไป (ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะเค้าผัดแต่เส้นกับถั่วงอก) / ส่วนน้ำสลัดเธาซัน เค็มมาก แต่น้ำสลัดครีมปกติ อร่อยดีค่ะ ....... โดยรวมๆ ตามความเห็นของพิมและคุณสามี ก็สรุปว่าบุฟเฟ่ท์อาหารเช้าที่ All Season Chiangmai โอเคกว่าทัั้งในเรื่องของชนิดอาหารและคุณภาพอาหาร รวมไปถึงความใส่ใจในการทำอาหารอ่ะค่ะ
สรุป ...... สำหรับภาพรวมการไปพักที่โรงแรม Hotel m ห้อง 403 ช่วงระหว่างวันที่ 21 พ.ย. - 30 พ.ย. 54 ...... พิมก็ขอสรุปโดยรวมไว้ตามนี้นะคะ หากใครสนใจก็ลองไปพักดูค่ะ ^_^