ร้านเนื้อย่างในกรุงเทพฯ .. ถ้านับกันจริง ๆ คงจะมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ส่วนตัวพิมเอง ที่เคยไปจริง ๆ มีไม่กี่ร้านหรอกค่ะ แต่ในบรรดาร้านที่เคยได้ไปนี่ ร้าน Giants เป็นร้านเนื้อย่าง (บุฟเฟ่ท์) ที่พิมกับครอบครัวและเพื่อน ๆ คุณแฟน ไปกันบ่อยที่สุดเลยค่ะ
เนื้อ ย่างที่ร้านนี้ .. ถ้าจะว่าไปแล้ว ในเรื่องรสชาติก็ต่างจากที่อื่นพอควรค่ะ .. ถ้ามีคะแนนสัก 10 พิมคงจะให้สัก 7 ในเรื่องของรสชาติ (พิมว่าที่ซูกิชิ ที่ไม่บุฟเฟท์ อร่อยกว่านะคะ) แต่ในเรื่องของการบริการ อัธยาศัยไมตรีของผู้จัดการและพนักงานร้านนี่สิค่ะ ที่มีสัก 10 พิมก็อยากจะให้ 10 เลยค่ะ เพราะงั้นทุกครั้งที่อยากจะกินเนื้อย่าง พิมก็จะนึกถึง Giants เป็นอันดับแรก
Giants นี่ ปกติเวลาพิมไป พิมจะไปกับคุณแฟน และก็น้องชายพิมด้วยค่ะ แต่วันนี้เค้าไม่ว่าง ก็เลยไปกันแค่พิมกับคุณแฟน และก็เพื่อน ๆ รุ่นน้องของ คุณแฟนอีก 4 คน
ว่าแล้วก็มาม่ะ ... ตามพิมมาเลยดีกว่า วันนี้เรานั่งแท๊กซี่ไปกันค่ะ
เรานั่งแท๊กซี่จากแถวบางกะปิ ออกเลียบทางด่วน ไปโผล่ถนนเพชรบุรี แล้วก็เลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 32 (จำไม่ผิดซอยใช่ไหมค่ะ - -") พอตรงเข้าไปถึง 3 แยก เราจะเห็นตึก City Resort ก็ตรงเข้าไปจอดรถหน้าตึกเลยค่ะ
แล้วจากนั้นเราก็เข้าไปในตึก (ชั้นล่างเป็นสตาร์บัค) เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 3 กันค่ะ ... เลี้ยวขวา ก็จะเจอร้าน Giants ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าเลยน่ะค่ะ
วันนี้สมาชิกของเรามีทั้งหมด (รวมพิมด้วย) ก็ 6 คนค่ะ ... แต่ขอบอก !!! เป็น 6 คนที่ อืมมมมมม Giants สมชื่อร้านเลยค่ะ .... ^^"
เริ่มจากคนแรก ....... คุณแฟนสุดที่ร๊ากกกกกก "Cashy ของพิม หรือ Dark-Master ของเพื่อน ๆ น้องๆ" (ภาพนี้ถ่ายตอนกินเสร็จ ใกล้จะกลับบ้าน เค้าไม่ได้ยกมือไหว้ใครนะคะ แค่เอามือมาประกบกันเฉยๆ - -")
ต่อมาก็ เพื่อนรุ่นน้องของแฟนคนที่ 1 น้องเค้ามาถึงก่อนเรา ครึ่ง ชม. ค่ะ (ทั้งที่มาจากแถวบางมด) - -" ... ก็เลยมาจองที่ไว้ให้เราก่อน (ขออภัยนะ ที่พี่จำชื่อเราไม่ได้ -*-)
ต่อมาก็เพื่อนรุ่นน้องคุณแฟนอีก "เอ๊ะ" .............. อันนี้ขาประจำ ไปไหนไปกันตลอด ไม่เคยจะมีพลาด
แล้วก็ยังมีขาประจำสุด ๆ .... อีก 2 คน "เก้า กับ คริต"
ส่วนคนสุดท้ายในวันนี้ ... ก็คือ พิมเองแหละค่ะ .... ฮ่ะๆๆ
แล้วเมื่อสมาชิกครบ ... ทุกอย่างครบ .. เข้าไปนั่งประจำที่ในร้านเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวสั่งกันทันทีโดยไม่ต้องดูเมนูเลยค่ะ ^___^ ..... แต่เนื่องจากว่าในระยะหลัง ๆ พิมถูกคุณแฟนทอดทิ้งค่ะ -*- อีตอนเค้ามากับเพื่อนครั้งก่อน ๆ เค้าไม่ได้เอาพิมมาด้วย (ไม่ค่อยจะว่าง ตรงกับวันที่เค้ากับเพื่อน ๆ มาทานกันเลยน่ะค่ะ) พิมก็เลยห่างหายไปจาก Giants ซะนาน ก็เลยต้องขอดูเมนูหน่อยแหละ ว่ามีอะไร (เพิ่ม) บ้าง (ไหม) ฮี่ๆ
แต่ดู ๆ แล้ว .. ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่เพิ่มมาในช่วงนี้เลยค่ะ (จริง ๆ อยากให้เค้ามีอะไรใหม่ ๆ เปลี่ยนทุกเดือน หรือสักสองเดือนก็ดีนะคะ จะได้รู้สึกว่ามีอะไรให้ลุ้นทุกครั้งที่มา ^^") เพราะฉะนั้นเลยหันไปหยิบอีกแผ่น ดูวิธีย่างดีกว่า (จริง ๆ ไม่ต้องดู ก็รู้ แต่ก็อยากดูเน๊าะ แบบว่าระหว่าง สั่ง + รอ ไม่รู้จะทำอะไรน่ะค่ะ)
แล้วช่วงนี้แหละค่ะ ที่พิมตอนนี้สงสารน้องพนักงานมากๆ จดรายการของที่พวกเราสั่งกัน มือหงิกแทบไม่ทันเลยค่ะ -*- .... เพราะเราสั่งกันไปร้อยกว่าจานเห็นจะได้ (เว่อร์ไป ๆ ฮ่ะๆ) ....
หลังจากสั่งของไปแล้ว และพลิกซ้ายขวา กระดาษเมนู และกระดาษแสดงวิธีการย่าง ไป 378 ตลบ ..... ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารที่สั่งไป และเตาไฟ ก็ยังไม่มาค่ะ (แบบว่าวันที่ไปเนี่ย หิวมากๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ) ... แต่น้องพนักงานเค้าก็มาเสริฟ์น้ำให้พวกเรากินรองท้องไปก่อนค่ะ .... ซึ่งวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา ปกติพิมจะดื่มเป๊ปซี่นะ เพราะว่าของโปรดมาก ๆ หรือไม่ก็น้ำเปล่าค่ะ แต่วันนี้พิมขอเป็นชาข้าวบาเล่ย์แทนแล้วกัน อยากกินของแปลกใหม่ (จริง ๆ เคยกินไปแล้วในครั้งก่อน ๆ ที่มา แต่ก็ไม่ชอบเลยค่ะ - -" / แล้วคราวนี้จะกินทำไมเนี่ยยยย) ..... นี่ค่่ะ...น้ำชาข้าวบาเล่ย์ของพิม ... เพื่อนน้องชายพิมที่ไปอยู่ญี่ปุ่นมาปีกว่า บอกว่าสาว ๆ ที่นั่นชอบกินกันด้วยนะคะ (ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน)
พอน้องพนักงานเค้ารินน้ำชาให้พิม และเสริฟน้ำให้ทุกคนในโต๊ะเสร็จ .. ก็พอดีกับน้องพนักงานผู้ชายอีกคน หิ้วเอาตะแกรงย่างกับเตาถ่านมาให้พอดีเลยค่ะ (แหมมมม ได้ยินในใจเราบ่นสิเนี่ย โฮ๊ะๆ) ... ถ่านที่นี่ ไฟแรงดีมาก ๆ อยากเอากลับไปใช้หุงข้าวที่บ้านง่ะ (ไม่รู้เค้าใช้ถ่านอะไรเน๊าะค่ะ)
พอถ่านมาแล้ว .. ระหว่างรอเนื้อสัตว์ พิมก็มาเตรียมน้ำจิ้มค่ะ ... อันนี้คือชุดน้ำจิ้มที่ทางร้านเค้ามีวางไว้ประจำทุกโต๊ะค่ะ ก็จะมีขวดน้ำจิ้ม (ออกรสหวาน) ขวดน้ำมะนาว แก้วใส่พริก แก้วใส่กระเทียมสับ ค่ะ (บอกละเอียด เผื่อคนที่ยังไม่เคยไป)
น้ำจิ้มเนื้อย่างสำหรับพิม .... ต้องเข้มข้นหน่อยค่ะ พอพิมเทน้ำจิ้มใส่ถ้วยส่วนตัวแล้ว ก็เลยตักเอาพริกกับกระเทียมใส่ลงไปด้วย ตอนแรกคิดว่าตัวเองใส่เยอะแล้วนะคะ (ใส่เยอะกว่าในภาพนี้ 2 เท่า) แต่พอหันไปดูเพื่อนแคช - -" ... แหมมมมมม ไอ้ของเรานี่กระจิ๊บ ๆ ๆ ไปเลยค่ะ น้องเค้าเล่นใส่กระเทียมซะแบบว่า มองไม่เห็นน้ำจิ้มเลย
ป.ล. น้ำจิ้มเนื้อย่างเนี่ย พิมชอบน้ำจิ้มที่ซูกิชิ (ส่วนไม่บุฟเฟท์) มากเลยค่ะ ..... น้ำจิ้มเค้าออกหวานนิด ๆ เผ็ดหน่อย ๆ พอเติมกระเทียมสับกับพริกขี้หนูสับ และน้ำมะนาวไปอีกนิด รสชาติจะอร่อยและเด่นมากมาย แต่ก็ไม่เด่นจนกลบรสชาติเนื้อ แล้วพอเราเอามาจิ้มกับเนื้อที่ย่างสุกใหม่ ๆ มันอร่อยมากกกกกกกกก จนไม่อยากเลิกกินเลยค่ะ <---- ความชอบส่วนตัวสุด ๆ นะคะเนี่ย
จากนั้นก็หันไปเตรียมจาน กับตะเกียบให้พร้อม (จริง ๆ พนักงานเค้าเตรียมมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ -*-) พิมไม่ได้เตรียมอะไรเล๊ยยยย แค่แกะตะเกียบออกจากถุงแค่นั้นเอง - -
และแล้ว...ว.ว.ว.ว..ว.วว.ว..ว.ว นั่งคุยชิว ๆ ไปอีกสักแป๊บบบบบ เนื้อสดจานแรกของเราก็มาถึงโต๊ะค่าาาาาาาา "เนื้อลายมัน" จำไม่ได้ว่าสั่งไปรอบแรกนี่กี่จาน แต่ไม่น่าต่ำกว่า 5 จาน (แต่รวมแล้ว เฉพาะเนื้อลายมัน สั่งไปน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 จานนะคะ)
ลองคีบดูสักชิ้นสิ ... ชิ้นใหญ่แค่ไหนเนี่ยยยยย (คนคีบ ไม่ได้เรื่องเล๊ยยย คีบไม่ได้บรรยากาศเหมือนกับในรายการ Maki Restaurant รายการดังของญี่ปุ่นเลยอ่า -*-)
เนื้อลายมันนี่ .... พิมชอบนะคะ เวลาเอาเค้าไปย่างด้วยเปลวไฟ พอข้างนึงใกล้จะสุก เราก็รีบพลิกกลับเอาอีกข้างให้โดนไฟจึ๋งนึงงงง จากนั้นเอามาห่อด้วยผักกาดที่สดกรอบ (แช่เย็นมาด้วยนิดนึง) เอาน้ำจิ้มที่มีกระเทียมกับพริกเยอะ ๆ แปะลงไป แล้วก็เอาเข้าปากทั้งคำใหญ่ ๆ อย่างนั้น ........หู๊ยยย อร่อยมากมายเลยค่ะ
แต่ .................. ว่าเนื้อลายมันอร่อยแล้ว แต่พิมชอบ "เนื้อติดมัน" มากกว่าค่ะ ^^ เพราะเหมือนเค้ายังมีอะไรให้เคี้ยว ไม่เหมือนเนื้อลายมัน ที่มันเหมือนจะละลายในปากได้ (แค่เหมือนนะคะ แต่มิสามารถละลายได้อ่า) .. นี่ค่ะ จานนี้ หน้าตาแบบนี้ คือ "เนื้อติดมัน" ... น่าอร่อยใช่ไหมล่าาาา
ลองให้คุณแฟน คีบขึ้นมาโชว์สักชิ้นนึงสิ จะดูดีเหมือนเนื้อลายมันไหมน๊าาาา (คีบ ไม่ได้อารมณ์เช่นเคย -*-)
มีเนื้อมัน ๆ ไป 2 เนื้อแล้ว ก็ขอเนื้อไม่มันบ้างนะคะ แบบมีแต่เนื้อล้วน ๆ เพื่อสุขภาพอันดี ....... จานนี้เค้าเรียกว่า "เนื้อสัน" ค่ะ ทำมาเป็นวงเหมือนดอกไม้ น่าร๊ากกกก
ต่อมา .. ก็เป็นกุ้งสดค่ะ ... สดจริง ๆ นะเออ แถมตัวก็ใหญ่พอประมาณเลยค่ะ เคยได้ยินจากในพันทิปนี่แหละค่ะว่า เจ้าของร้านเค้าสั่งเป็น ๆ มา แล้วเลี้ยงเอาไว้หลังร้าน แล้วค่อยทยอยสต๊อกจับมาให้ลูกค้ากินแบบสด ๆ (ไม่รู้จริงแท้แค่ไหนนะคะ)
แล้วพิมก็ยังสั่ง "ปลาหมึก" ด้วย ... ปลาหมึกนี่ คราวก่อน ๆ ที่มา พิมแทบจะไม่เคยสั่งเลยค่ะ เพราะแม่พิมมักจะเอาแบบสดปิ๊ง ๆ ๆ ชนิดเพิ่งขึ้นจากทะเล หนวดยังเกาะนิ้วเรา ยังไม่โดนน้ำจืด .. มาฝากพิมอยู่เสมอ แทบทุกอาทิตย์ พิมก็เลยเบื่อ ๆ ปลาหมึก แต่มาคราวนี้ขอสั่งซะหน่อย เพราะว่าบอกแม่ไม่ให้เอามาฝากหลายอาทิตย์แล้วน่ะค่ะ -*-
แต่ อืม ๆ ...... ปลาหมึกคราวนี้ พิมไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ รู้สึกมันไม่ค่อยอร่อยน่ะค่ะ เนื้อไม่ค่อยกรอบ ไม่ค่อยดึ๋ง รสไม่ค่อยหวาน ออกจะเหนียวสักเล็กน้อย แต่ก็โอเค ไม่เลวร้ายนะ
จริง ๆ มีสั่ง "เนื้อหมู" กับ "เนื้อไก่" ด้วยนะคะ แต่ว่าสั่งอย่างละจานสองจาน ไม่ได้สั่งเยอะ พิมก็เลยไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูป เพราะพอมาถึงก็เอาลงย่างกันเลย ถ่ายไม่ทัน -*- (พนักงานร้าน กับสมาชิก ไม่เป็นใจง่ะ)
ต่อมาก็เป็น "ปลาแซลมอน" ค่ะ ..... คุณภาพใช้ได้เลยค่ะ แต่ย่างแล้ว ชอบติดตะแกรงจริงๆ จะต้องย่างเนื้อก่อน ให้น้ำมันเนื้อชุ่มตะแกรง ค่อยเอาแซลมอนไปย่างตรงนั้น ก็จะไม่ค่อยติดค่ะ
แล้วพิมกับแก๊งค์ก็ยังสั่ง "เห็ดออรินจิ" ด้วยค่ะ ซึ่งทางร้านเขาจะสไลด์มาให้แบบนี้ ไม่หนาไม่บางจนเกินไป .... เห็ดอันนี้ย่างพอสุก ให้นิ่ม ๆ นิด เอามาจิ้มกับน้ำจิ้มต้อนร้อน ๆ อร่อยมาก ๆ ค่ะ หรือจะกินแบบไม่ต้องจิ้มเลย ก็ยังอร่อยอยู่ดี
ป.ล. แรกๆ พิมเรียกเห็ดออรินจิ หรือ เออรินจิ ว่า ... เห็นออริจินค่ะ ... แล้วเพื่อน ๆ ก็พากันขำนะคะ แต่มันก็ขำ แบบไม่ยอมบอกพิมว่าขำอะไรอ่ะ กว่าพิมจะรู้ ก็ปล่อยไก่ไปนับสิบตัวแล้ว -*-
แล้วก็ยังมี "กิมจิ" หรือ "คิมูจิ" ... พิมชอบกิมจิที่ร้านนี้ค่ะ รสชาติเค้าไม่จัดจ้าน ไม่เปรี้ยวไป เผ็ดไป นุ่ม ๆ มาก เหมาะกับการเอามากินกับเนื้อย่างมัน ๆ แบบนี้ ตัดเลี่ยนไปได้เยอะเลยค่ะ
ส่วนอีกอย่างที่จะขาดซะไม่ได้ ก็คือ ผักยำ (จริง ๆ น่าจะเรียกว่าผักคลุกน้ำมันมากกว่าน๊าาาา) ... ก็จะเป็นกวางตุ้ง กับถั่วงอกค่ะ น่าจะเป็นการลวก แบบให้สุกกรอบ แล้วเอามาคลุกหรือผัดกับน้ำมันงานะคะ ซึ่งเจ้าผักยำจานนี้เนี่ย ไปแรก ๆ ไม่ค่อยชอบสั่งเลยค่ะ รู้สึกเอียน ๆ แต่มาระยะหลังกลับชอบค่ะ อาจจะเพราะเห็นคุณแฟนชอบกินก็เป็นได้ (แบบว่าอิทธิพล ฮ่ะๆ)
นอกจากผักยำแล้ว ผักอื่น ๆ ที่มีอีกอย่าง ก็คือ ผักกาดหอมค่ะ ... เอามาไว้กินกับเนื้อย่างนี่แหละ ย่างร้อน ๆ แล้วห่อด้วยผักกาดหอม แตะน้ำจิ้มลงไปสักนิดนึง .. อื๊มมมมมมมม... อร่อยมากมายเลยค่ะ แต่พิมไม่ค่อยชอบ >_<'
และที่่จะขาดไม่ได้สำหรับพิม ก็คือ "ข้าวผัดกระเทียม" ค่ะ .... คือ จริงๆ ไม่อยากกินข้าวผัดกระเทียมเท่าไหร่ เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบกินข้าว (แต่ชอบกินกับข้าว - -") แต่ข้าวผัดกระเทียมที่นี่อร่อยนะคะ ..... แล้วถ้าไม่กินข้าว กินแต่เนื้อย่างอย่างเดียว ถึงจะอิ่ม แต่ก็อิ่มไม่นาน เพราะนั้นเลยต้องสั่งข้าวผัดกระเทียมค่ะ
ส่วนคนอื่น ๆ ในโต๊ะ บางคนก็สั่งข้าวผัดกระเทียมเหมือนพิม แต่บางคนก็ชอบข้าวสวยมากกว่า เห็นคุณแฟนเค้าว่าข้าวสวยที่นี่ก็ใช้ได้นะคะ มากี่ทีก็ได้ข้าวสวยกินอร่อยแบบนี้ทุกที .... (ที่พูดแบบนี้ เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นบางร้าน อย่างโคบูเนะ ที่เดอะมอลล์บางกะปิ พิมไป 2 ครั้ง คนหุงข้าว หุงข้าวแฉะมากทั้งสองครั้งเลยค่ะ)
เมื่อมีข้าวแล้วก็ต้องมีซุปด้วย (ไม่งั้นข้าวติดคอ ไม่รู้นะเอออออ) ... ที่นี้มีซุปให้เลือกเพียงอย่างเดียวค่ะ (อย่างเดียว นี่มันเรียกว่ามีให้เลือกเร๊อะ - -") คือ มิโซะซุป ใส่สาหร่ายแผ่นโตๆ ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าคอมบุไหม แล้วก็มีต้นหอมโรยหน้า (ไม่มีเต้าหู้ชิ้นเล็ก ๆ นะคะ) ซดตอนร้อน ๆ อร่อยดีค่ะ แถมถ้าได้ซดตอนหลังกินเนื้อย่างเข้าไปแล้ว เหมือนมันจะช่วยล้างคอด้วยค่ะ