และเมื่ออาหารสด (ชุดแรก) ที่สั่งมาถึงโต๊ะแล้ว .... ก็พร้อมจะลงมือลุยได้แล้วค่ะ
เริ่ม แรกที่เตาไฟกำลังร้อน ๆ พิมก็ต้องเอากุ้งกับเห็ดลงไปย่างก่อนค่ะ ที่เอากุ้งไปย่างก่อน เพราะว่า กุ้งใช้เวลานานกว่าหัวมันจะสุก (แบบว่าพิมไม่กินหัวกุ้งเละ ๆ อ่ะนะ) ส่วนเห็ดนี่ที่ย่างก่อน เพื่อรองทอง ก่อนจะไปลุยกับเนื้อสัตว์ค่ะ
หลังจากกินกุ้งกับเห็ดไปสักแป๊บ คุณแฟนพิมเค้าเริ่มหิวมากแล้ว เราเลยจะย่างเนื้อกันล่ะค่ะ ... แต่จะย่างเนื้อให้อร่อย ก็ต้องมีการปรับระดับไฟกันหน่อย (สำหรับคนที่ไม่เคยไป-ปรับที่ด้านข้าง ๆ ของโต๊ะนะคะ) ... สักแป๊บบบบ เปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นมาพอประมาณ (แต่ไม่มาเหมือนโต๊ะข้าง ๆ ที่ควันฟุ้งเลยค่ะ -*-) เราก็หยิบเนื้อหย่อนลงไปย่างบนตะแกรงได้เลยค่ะ
เนื้อเนี่ย...ไม่ว่าจะเนื้อส่วนไหนก็ตาม ....... อย่า-ย่าง-นานนะคะ ย่างนานแล้วเนื้อจะแข็ง ไม่ค่อยอร่อย พลิกไปพลิกมา ... พอให้รู้สึกว่าจะสุก ก็พอแล้ว ... แม่พิมเค้าเคยบอกว่า เนื้อบาง ๆ อย่างนี้ พอโดนไฟปุ๊บ มันสะดุ้งทีนึง .... มันก็สุกแล้วค่ะ
ชิ้นนี้เป็นเนื้อสัน ..... ย่างพอสุกแล้ว เอาไปจิ้มน้ำจิ้มให้ติดกระเทียมกับพริกเยอะ ๆ แล้วก็เอามาโปะบนชามข้าว แล้วก็พุ้ย ๆ ข้าวกับเนื้อเข้าปาก ........ โอ๊ยยย อร่อยได้อารมณ์สุด ๆ เลยค่ะ ^^
แล้วระหว่างที่เราย่างเนื้อ ย่างเห็ด ย่างปลาแซลมอนไปเรื่อย ๆ สักไม่นาน ... กุ้งเราก็สุกค่ะ (กุ้งนี่ก็ย่างนานไม่ได้ เนื้อแข็ง พิมก็ว่าไม่ค่อยอร่อยนะคะ กุ้งนี่ต้องเนื้อดึ๋ง ๆ หน่อยจะอร่อยมากกกกกก / แต่อันนี้ ในรูป ย่างนานเกินไป เพราะมัวแต่คุยค่ะ -*-)
จริง ๆ พิมชอบกินกุ้งย่างมาก ๆ เลยค่ะ น้อง ๆ สมาชิกในแก๊งค์แฟนพิมเค้าก็ดูท่าทางจะชอบมากเหมือนกัน แต่ที่สั่งมาแค่ 2 จานตลอดงาน เพราะว่ามันต้องแกะเปลือกเนี่ยแหละค่ะ -*-
แล้วระหว่างพิมแกะกุ้งกินไปเรื่อยๆ แคชเค้าก็ย่างเห็ด ย่างเนื้อไปเรื่อยๆ เหมือนกันค่ะ ..... ดูสิค่ะ เห็นออรินจิ น่ากินเน๊าะ ^^ (พิมเคยทำประมาณนี้กินที่บ้าน แต่ลองเอาเห็ดอย่างอื่นมาอย่างแทน อย่างเห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง แต่ไม่อร่อยเท่าค่ะ คงเพราะเนื้อเห็ดไม่แน่นเหมือนออรินจิ แต่เห็ดหอม กับเห็ดเข็มทอง ย่างพอสะดุ้งไฟ ก็อร่อยไม่แพ้ออรินจินะคะ)
เราไปกันทั้งหมด 6 คน (ไซด์ Big ๆ) ทั้งนั้น ดังนั้นเนื้อสดที่สั่งมาชุดแรก มันก็เลยไม่พอค่ะ (แม้จะสั่งมาอย่างละหลายจานก็ตาม ฮ่ะๆ) ก็เลยมีการสั่งชุดต่อ ๆไป ต่อ ๆ ไป และก็ต่อ ๆ ไป ค่ะ ประมาณว่าเต็มโต๊ะอย่างนี้ราว 4-5 รอบได้ แต่สั่งเยอะขนาดนี้ เจ้าของร้าน ผู้จัดการ พนักงานเสริฟ เค้าก็ไม่ได้มาแสดงอารมณ์ไม่พอใจ อย่างกับบางร้านนะคะ (นี่แหละที่ทำให้ชอบ Giants)
ระหว่างกินกันไป ย่างกันไป เพื่อน ๆ สมาชิกแก๊งค์เค้าก็คุยกัน เม้าท์กันไปเรื่อย ๆ ถึงเพื่อนคนนี้บ้าง คนโน้นบ้าง เรื่องเศรษฐกิจ สังคม เรื่องโน่นเรื่องนี่บ้างไปตามประสาผู้ชาย .. ส่วนพิมเร๊อะ มัวแต่ยุ่งกับการถ่ายรูป แล้วก็รีบกินตามคนอื่นเค้าค่ะ ฮ่ะๆ
มีช่วงนึงค่ะ ... น้องพนักงานเสริฟ เค้าคงจะเห็นพวกเราตัวน้อย ๆ กินข้าวชามเล็ก ๆ คงจะไม่โตแน่นอน ^^" .... พอเราสั่งข้าวกระเทียมไป 3 ถ้วย รอบแรกน้องเอามาให้ซะ 5 ถ้วย อีกรอบก็เอามาให้อีกโดยไม่ได้สั่ง 3 ถ้วย ..... พวกเราเกรงใจน้องเค้า เกรงใจคนทำ ทั้งที่อิ่มแล้ววว แต่ก็ฝืนกินจนหมดค่ะ (จริง ๆ น๊า)
พิมน่ะ .. ใจจริงก็ชอบข้าวผัดกระเทียมที่นี่นะคะ แต่เห็นพิมตัวโต๊โตอย่างนี้ แค่ถ้วยเดียว พิมก็ยังกินไม่ค่อยจะหมดเลยค่ะ (อาศัยเน้นกินกับข้าวเยอะ ^^") .. อย่างถ้วยนี้ของพิม ก็มีแต่เนื้อย่างโปะ ๆ ลงไป จนมองไม่เห็นข้าวเลยค่ะ
ย่างเนื้อไปเกือบจะหมด (ช่้วงนี้พิมเริ่มอิ่มซะแล้ววววว) นึกได้ว่าลืมกินปลาหมึกค่ะ -*- แบบคุณภาพมันไม่ค่อยจูงใจให้อยากเอามาย่างกินเลย แต่สั่งมาแล้วน่ะนะ ไม่อยากให้เหลือทิ้งเสียของ ก็เลยย่างปลาหมึกต่ออีกสักหน่อย
ระหว่างนี้ ... ก็ยังมีการเม้าท์ แล้วก็คุยกันไปเรื่อย ๆ ..... กินไปคุยไป โบราณเค้าว่าไว้ บอกว่าเดี๋ยวข้าวจะติดคอ ... พิมว่านั่นเป็นแค่ส่วนนึง จริง ๆ แล้ว มันคงจะดูไม่สุภาพด้วยแหละค่ะ ......... แต่มากินกับเพื่อนแบบนี้ ไม่เป็นไรเน๊าะ -*-
ระหว่างนี้ ... พิมเริ่มอิ่ม (ไม่ไหวจะกินอีกแล้ว) ก็เริ่มมองดูบรรยากาศภายในร้าน ซึ่งวันนี้จะว่าไป ในเวลานี้ คนเยอะกว่าทุกทีที่เคยมานะคะ แบบว่าปกติที่เคยมาวันธรรมดา เวลาราชการอย่างนี้ คนจะมีแค่สองสามโต๊ะเองน่ะค่ะ
พิมมองร้านเพลินไปนิดนึง หันกลับมาอีกที โต๊ะที่เรานั่งกิน บนโต๊ะก็เริ่มว่าง ๆ แล้ว (แต่ข้าวกระเทียมก็ยังเหลืออีกด้วย)
บางคนก็เริ่มสั่งขนมหวานมากินแล้ว
ขนมหวานร้านนี้ ... มีอยู่อย่างเดียวให้เลือก (งงไหม -*-) ก็คือ ไอซ์เยลลี่ หรือจะว่าไป ก็คือ น้ำแข็งใสราดน้ำแดงแบบบ้านเรานั่นแหละค่ะ .... แต่ก็อร่อยดีนะคะ .... พิมเคยกินเพลิน ๆ ก็กินไปได้ตั้ง 4 ถ้วยแน่ะ แต่น้องคนนึงที่มาด้วยกันเนี่ย ได้ข่าวว่า เคยกินไปรวดเดียวตั้ง 12 ถ้วย - -" (แต่ถ้วยนึงมันนิดเดียวเองอ่าา)
อ้าว....................อ๊ามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม กินด้วยกันไหมคร๊าบบบบบบบบบบบ
รวมเบ็ดเสร็จ วันนี้ทุกคนกินไอซ์เยลลี่รวมกันไปประมาณเกือบ 20-25 ถ้วยค่ะ
พอทุกคนกินอิ่มแล้ว ก่อนจะเช็คบิล ... เราก็มาดูความเสียหายของวันนี้กันค่ะ ........ กินกันทั้งหมด 6 คน อันนี้นี่มันน้อยหรือมากไปค่ะเนี่ย ^^"
รวมเบ็ดเสร็จค่าเสียหายวันนี้ก็ 2700 บาทค่ะ (คนละ 450 * 6 คน) ....... โดยส่วนตัว ถ้าถามว่าใช้ได้ไหม .. ก็โอเคนะคะ เป็นร้านเนื้อย่างแบบญี่ปุ่นในเมืองไทยที่ใช้ได้ค่ะ (แต่ระยะหลัง เหมือนเนื้อที่แล่มา จะบางมากขึ้น แล้วก็ชิ้นเล็กลง ทำให้ความอร่อยลดลงไปนะคะ)
ส่วนถ้าถามว่าคุ้มไหม .. สำหรับพิม ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะกินน้อย (น้อยจริง ๆ นะคะ -*-) ..... แต่สำหรับคุณแฟน เค้าบอกว่าคุ้มค่ะ (เพราะเค้ากับเพื่อนกินเยอะ)
ถ้าถามว่าจะไปอีกไหม ... ก็คงไปอีกค่ะ เพราะจริง ๆ จะว่าไป Giants เนี่ย ก็ไปมาหลายครั้งมาก ๆ แล้วนะคะ
แต่ติดปัญหานึงที่ทำให้ไม่ค่อยอยากไป ก็คือ หากวันไหนไม่ได้เอารถไป ไม่ได้มีใครมารับ .. ประมาณว่านั่งแท๊กซี่ไปกันเอง ... ตอนขากลับ แทบทุกครั้ง ... จะหาแท๊กซี่กลับยากถึงยากที่สุดเลยค่ะ .......... มีครั้งนึงยืนรอที่ฝั่งตรงข้ามตึกที่ตั้งร้านฯ อยูราว 1/2 ชม. ก็ยังหาแท๊กซี่กลับไม่ได้ คือมีมาบ้าง นาน ๆ ทีมี 1 คัน แต่พอเราบอกว่าไปลาดพร้าว 101 หรือแม้กระทั่งไปเดอะมอลล์บางกะปิ , ไป Big C ลาดพร้าว .... ก็ไม่มีคันไหนไป ทั้งที่มันไม่ไกลเลย มีทางลัดด้วย ...... เราก็เลยเดินออกมาตามซอยจนถึง ถ.เพชรบุรีค่ะ แล้วระหว่างเดินออกมาเกือบ 20 นาที ก็ไม่มีรถอีกเช่นกัน เรามานั่งรอแท๊กซี่ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามอิตัลไทย อยู่อีกราว 1 ชม. 1/2 ค่ะ ก็แทบไม่มีแท๊กซี่เลย (ตอนนั้นแทบจะร้องไห้ เซ็งมากกกกกกกกกกกก) ..... สุดท้ายมีแท๊กซี่ใจดีคนนึงมาพอดี เค้ารับพวกเราค่ะ (ไปกัน 2 คันนะคะ มิใช่คันเดียว -*-) เรางี้แทบจะกระโดดกอดคอลุงคนขับเลยค่ะ - -" .......... นี่แหละก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ค่อยอยากไป Giants น่ะค่ะ
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ......... ^^
แล้วพิมก็ขอจบ ... การพาไปกินเนื้อย่างที่ร้าน Giants ไว้ตรงนี้เลยล่ะกันนะคะ (จบเอาดื้อๆ อิอิ) .... ไว้คราวหน้าถ้าไป มีอะไรเพิ่มเติม อะไรดีขึ้น หรือแย่ลงกว่านี้ จะค่อยมาโพสต์บอกไว้อีกทีนะคะ ..... บ๊ายบาย